คำว่า "มูส" ซึ่งหมายถึง "โฟม" ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึงผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีลักษณะคล้ายโฟม มีฟังก์ชั่นหลากหลาย เช่น ครีมนวดผม สเปรย์จัดแต่งทรงผม และน้ำนมใส่ผม Hair Mousse มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศสและได้รับความนิยมไปทั่วโลกในช่วงทศวรรษปี 1980
เนื่องจากสารเติมแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ในมูสผมจึงสามารถชดเชยได้ผมเสียเกิดจากการสระผม ดัดผม และทำสี ช่วยป้องกันไม่ให้เส้นผมแตกตัว นอกจากนี้ เนื่องจากมูสต้องใช้ปริมาณเล็กน้อยแต่มีปริมาตรมาก จึงง่ายต่อการทาให้ทั่วเส้นผม ลักษณะของมูสคือช่วยให้ผมนุ่ม เงางาม และหวีง่ายหลังการใช้ เมื่อใช้งานเป็นเวลานานจะบรรลุวัตถุประสงค์ในการดูแลเส้นผมและจัดแต่งทรงผม แล้วคุณจะใช้มันอย่างถูกต้องได้อย่างไร?
หากต้องการใช้มูสผมเพียงเขย่าภาชนะเบาๆ พลิกคว่ำลง แล้วกดหัวฉีด มูสจำนวนเล็กน้อยจะกลายเป็นโฟมรูปไข่ทันที ชโลมโฟมให้ทั่วเส้นผม จัดแต่งทรงผมด้วยหวี และผมจะอยู่ตัวเมื่อแห้ง มูสสามารถใช้ได้กับทั้งผมแห้งและผมหมาดเล็กน้อย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า คุณสามารถเป่าให้แห้งเล็กน้อย
มูสชนิดใดที่เหมาะ? ควรเก็บไว้อย่างไร?
มูสมูสนี้ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้นเนื่องจากการยึดเกาะของเส้นผมที่ดี ทนต่อลมและฝุ่น และการหวีผมที่ง่ายดาย
แล้วมูสแบบไหนที่เหมาะ?
ภาชนะบรรจุภัณฑ์ควรปิดผนึกให้แน่น โดยไม่มีการระเบิดหรือการรั่วไหล ควรปลอดภัยและสามารถทนต่ออุณหภูมิได้ถึง 50°C ในช่วงเวลาสั้นๆ
วาล์วสเปรย์ควรไหลได้อย่างราบรื่นไม่มีสิ่งอุดตัน
หมอกควรมีความละเอียดและกระจายทั่วถึงโดยไม่มีหยดขนาดใหญ่หรือเป็นเส้นตรง
เมื่อทาลงบนเส้นผมจะเกิดเป็นฟิล์มใสอย่างรวดเร็ว มีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และความเงางามที่เหมาะสม
ควรรักษาทรงผมภายใต้อุณหภูมิที่แตกต่างกันและล้างออกได้ง่าย
มูสไม่ควรเป็นพิษ ไม่ระคายเคือง และไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ต่อผิวหนัง
เมื่อเก็บผลิตภัณฑ์ ควรหลีกเลี่ยงอุณหภูมิที่เกิน 50°C เนื่องจากเป็นสารไวไฟ เก็บให้ห่างจากเปลวไฟ และอย่าเจาะหรือเผาภาชนะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับดวงตา และเก็บให้พ้นมือเด็ก เก็บไว้ในที่เย็น
เวลาโพสต์: Aug-04-2023